หน่วยการเรียนรู้ที่2 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ข้อดีคือเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้จะต้องสามารถตอบเสนอความต้องการข้างต้นได้อย่างดี โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ข้อเสียคือเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที่ทันใด จำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาสิ้นเปลื้องมาก
จากเครื่องโทรศัพท์ที่มีขนาดใหญ่โตกระเป๋าเจมส์บอนด์ ที่เราเรียกว่ายุด First Generation (1G) สามารถโทรคุยและรับได้อย่างเดียว ไม่สามารถส่งข้อความอื่นๆได้ และต่อมาพัฒนาเป็นเครื่องโทรศัพท์ที่มีขนาดเล็กเท่านามบัตร ที่สามารถส่งข้อความ Short Message Service (SMS) ภาพกราฟิก และเสียงได้ที่เราเรียกว่ายุค Second Generation (2G) |
Information (สารสนเทศ) |
คำว่า ข้อมูล (Data) และสารสนเทศ (Information) เป็นคำที่บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน มักนิยมใช้คู่กันและบางครั้งก็ใช้ทดแทนกัน จนกระทั่งคนทั่วไปคิดว่าทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน แต่แท้ที่จริงแล้วคำทั้งสองคำนั้นมีความหมายแตกต่างกัน คือ ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงที่อยู่ในรูปของตัวเลขหรือสัญลักษณ์ที่มีความหมายเฉพาะตัว ไม่ได้แสดงความสัมพันธ์ใด ๆ และ ไม่สามารถนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้โดยตรง สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลแล้ว สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจได้ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ไม่สามารถใช้แทนกันได้ |
อินเทอร์เนต อินเทอร์เนตเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารทั่วโลกที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูงมากระบบหนึ่ง ข้อมูลสารสนเทศดังกล่าวไปแล้วข้างต้นนั้นถูกส่งผ่านอินเทอร์เนตอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงมาก จนกระทั่งการประมวลผลสารสนเทศในยุค ค.ศ. นี้แทบจะประมวลโดยการสื่อสารผ่านอินเทอร์เนตทั้งสิ้น อาทิเช่นการให้บริการที่เราเรียกว่า Web Service เช่นระบบรายงานเกรด ระบบลงทะเบียนเรียน หรือเรียกว่า e-Education เป็นต้น และยังมีระบบที่เราสร้าง และจัดการงานบนอินเทอร์เนตที่เราเรียกว่า Web Application เช่น LMS Learning Management System เป็นระบบออกแบบ พัฒนาและจัดการเรียนการสอนบนอินเทอร์เนต หรือที่เรียกว่า e-Learning และระบบฐานข้อมูลสื่อต่างๆ เช่นระบบจัดการภาพ e-Album ระบบวิดิทัศน์ตามประสงค์ Video on Demand เป็นต้น |
Technology (เทคโนโลยี) |
Technology Technology (Computer) คำว่าเทคโนโลยีในที่นี้ก็คือคอมพิวเตอร์นั้นเอง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยการประมวลผลข้อมูลให้ได้ซึ่งสารสนเทศนั้นเอง ข้อมูลที่ต้องการประมวลผลนี้จากเดิมที่ต้องทำการประมวลผลด้วยมือ อันส่งผลให้ช้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมาก ยิ่งหากมีข้อมูลที่มีจำนวนสูงมากแล้วก็ยิ่งผิดพลาดสูงขึ้นมากด้วย
|
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเราสามารถทำโดย การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บข้อมูลนั้นตลอดเวลา แล้วทำการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เท่านี้เราก็สามารถเข้าดูข้อมูล ขอรายงานต่างๆ ได้ทุกทีทุกเวลาอย่างสะดวกสะบาย โดยไม่ต้องคอยรอเจ้าที่จัดเก็บข้อมูล ไม่ต้องรอวันทำการราชการ
ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (I C T)
จากที่ได้กล่าวถึงความหมายของ ICT ไปพอสังเขปแล้ว มาในตอนนี้จะได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ของ ICT ดังกล่าวI หรือ Information
เป็นระบบจัดการสารสนเทศที่เราใช้ประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางสารสนเทศนั้น ในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร ์เราก็สามารถประมวลดังกล่าวได้เช่น
• Input การจัดเก็บข้อมูลนักเรียนโรงเรียนหนึ่งที่มีผู้เรียนจำนวน 100 คน เมื่อเราได้รายชื่อนักเรียนแล้วเราก็ทำการตรวจสอบข้อมูล รหัส ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ฯลฯ
• Processing ด้วยสายตาเราเอง จากนั้นเราก็ทำการเรียงลำดับรหัสนักเรียนแล้วสรุปว่ามีนักเรียนชายกี่คน นักเรียนหญิงกี่คน แยกตามชั้นเรียนเป็นชั้นเรียนละกี่คน เท่านี้ก็จัดว่าเป็นการประมวลผลด้วยมือเป็นที่สำเร็จแล้ว
T หรือ Computer Technology
ต่อเนื่องจากตัวอย่างการจัดเก็บข้อมูลผู้เรียนข้างต้น หากโรงเรียนที่ต้องการจัดเก็บข้อมูล โดยแยกได้ดังนี้
Input เก็บข้อมูลผู้เรียนมีจำนวนผู้เรียนมากถึง 1000 คน ขึ้นไป เราก็ไม่สามารถที่จัดทำการตรวจสอบข้อมูลและรายผลข้อมูลออกมาได้ทันตามความต้องการ ดังนั้นจึง
Processing ดังนั้นจึงนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยทำการตรวจสอบกรอกข้อมูลผู้เรียน และประมวลผลออกมาว่า
Output จากนั้นรายงานออกมาว่า มีนักเรียนชายกี่คน นักเรียนหญิงกี่คน แยกตามชั้นเรียนเป็นชั้นเรียนละกี่คน และรายงานออกมาในลักษณะรูปกราฟต่าง ๆ
C หรือ Communication
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเราสามารถทำโดย การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บข้อมูลนั้นตลอดเวลา แล้วทำการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เท่านี้เราก็สามารถเข้าดูข้อมูล ขอรายงานต่างๆ ได้ทุกทีทุกเวลาอย่างสะดวกสะบาย โดยไม่ต้องคอยรอเจ้าที่จัดเก็บข้อมูล ไม่ต้องรอวันทำการราชการ จากที่กล่าวไปแล้วทั้งหมดก็คือความสัมพันธ์ของของ ICT นั้นเอง ดังภาพประกอบคำอธิบายข้างต้น